นโยบายความเป็นส่วนตัว
นโยบายความเป็นส่วนตัว (นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล)
MACHIYA STAY KYO MIYABI (ต่อไปนี้เรียกว่าโรงแรม) ได้กำหนดนโยบายความเป็นส่วนตัวดังต่อไปนี้เกี่ยวกับการคุ้มครอง ข้อมูลส่วนบุคคล (ต่อไปนี้เรียกว่านโยบาย) ในบริการที่ให้บนเว็บไซต์นี้ (ต่อไปนี้เรียกว่าบริการ)
ข้อ 1 ข้อมูลส่วนบุคคล
  1. ในข้อมูลส่วนบุคคล คำว่า "ข้อมูลส่วนบุคคล" หมายถึง คำที่เรียกในกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เป็นข้อมูลเกี่ยวกับ บุคคลที่มีชีวิตอยู่ และหมายถึงข้อมูลที่สามารถระบุตัวบุคคลได้จากชื่อนามสกุล วันเดือนปีเกิด หมายเลขโทรศัพท์ สถานที่ติดต่อ และสิ่งอื่นซึ่งอยู่ในข้อมูลดังกล่าว
  2. ในข้อมูลส่วนบุคคล คำว่า "ข้อมูลประวัติและข้อมูลที่มีลักษณะเฉพาะ" หมายถึง ข้อมูลอื่นๆ นอกเหนือจาก "ข้อมูลส่วนบุคคล" ซึ่งระบุข้างต้น หมายถึง ข้อมูลที่จำแนกตัวบุคคล เช่น บริการที่เคยใช้และสินค้าที่เคยซื้อ ประวัติของหน้าเว็บหรือโฆษณาที่เคยดู คำสำคัญในการค้นหาที่ผู้ใช้งานใช้ค้นหา วันเวลาใช้งาน วิธีใช้งาน สภาพแวดล้อมในการใช้งาน รหัสไปรษณีย์และเพศ อาชีพ อายุ ที่อยู่ IP ของผู้ใช้งาน ข้อมูลคุ้กกี้ ข้อมูลตำแหน่ง และอุปกรณ์ที่ใช้งาน เป็นต้น
ข้อ 2 วิธีรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
  1. เมื่อผู้ใช้งานจะลงทะเบียนใช้งาน โรงแรมอาจสอบถามข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ชื่อนามสกุล วันเดือนปีเกิด ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่อีเมล หมายเลขบัญชีธนาคาร หมายเลขบัตรเครดิต หมายเลขใบอนุญาตขับขี่ และหมายเลขหนังสือเดินทาง เป็นต้น นอกจากนี้อาจเก็บข้อมูลจากบันทึกการทำธุรกรรมระหว่างผู้ใช้งานกับผู้ให้ความร่วมมือซึ่งมีข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งาน และข้อมูลเกี่ยวกับการชำระเงินจากผู้ที่เป็นพันธมิตรกับบริษัท (ได้แก่ ผู้ให้บริการข้อมูล ผู้ลงโฆษณา ผู้รับโฆษณา เป็นต้น ต่อไปนี้เรียกว่า "พันธมิตร")
  2. สำหรับผู้ใช้งาน โรงแรมจะรวบรวมข้อมูลประวัติและข้อมูลที่มีลักษณะเฉพาะ เช่น ข้อมูลที่จำแนกตัวบุคคล ได้แก่ บริการที่เคยใช้และสินค้าที่เคยซื้อ ประวัติของเพจหรือโฆษณาที่เคยดู คำสำคัญที่ใช้ค้นหา วันเวลาใช้งาน วิธีใช้งาน สภาพแวดล้อมในการใช้งาน (เช่น สภาพการสื่อสารบนอุปกรณ์ในกรณีที่ใช้งานผ่านโทรศัพท์มือถือ, ข้อมูลการตั้งค่าแต่ละชนิดเมื่อจะใช้งาน เป็นต้น) ที่อยู่ IP ข้อมูลคุกกี้ ข้อมูลตำแหน่ง และอุปกรณ์ที่ใช้งาน เป็นต้น เมื่อผู้ใช้งานจะใช้บริการของโรงแรมหรือ พันธมิตรหรือจะดูหน้าเว็บ
ข้อ 3 วัตถุประสงค์ของการรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
วัตถุประสงค์ที่โรงแรมจะรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลมีดังนี้
สำหรับแสดงข้อมูล ได้แก่ ข้อมูลที่ลงทะเบียนไว้ เช่น ชื่อนามสกุล ที่อยู่ สถานที่ติดต่อ วิธีชำระเงิน บริการที่เคยใช้และสินค้าที่เคยซื้อ และจำนวนเงิน เป็นต้น เพื่อให้ผู้ใช้งานอ่านและแก้ไขข้อมูลที่ตนเองลงทะเบียนไว้ และดูสภาพการใช้งาน
สำหรับใช้ที่อยู่อีเมลเพื่อแจ้งหรือติดต่อผู้ใช้งาน และสำหรับใช้ข้อมูลสถานที่ติดต่อ เช่น ชื่อนามสกุลและที่อยู่ เพื่อส่งสินค้าหรือติดต่อผู้ใช้งานตามความจำเป็น
สำหรับใช้ข้อมูล เช่น ชื่อนามสกุล วันเดือนปีเกิด ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขบัญชีธนาคาร หมายเลขบัตรเครดิต ใบอนุญาตขับขี่ หมายเลขหนังสือเดินทาง และผลการส่งไปรษณีย์ที่มีหลักฐานการรับ เพื่อตรวจสอบตัวผู้ใช้งาน เป็นต้น
สำหรับใช้ข้อมูลเกี่ยวกับการชำระเงิน เช่น สินค้าและจำนวนที่เคยซื้อ ประเภทและระยะเวลาของบริการที่เคยใช้ จำนวนครั้ง จำนวนเงินเรียกเก็บ ชื่อนามสกุล ที่อยู่ หมายเลขบัญชีธนาคาร และหมายเลขบัตรเครดิต เพื่อเรียกเก็บเงินจากผู้ใช้งาน
สำหรับแสดงข้อมูลที่ลงทะเบียนไว้กับโรงแรมบนหน้าจอกรอกข้อมูล และสำหรับส่งต่อบริการอื่นๆ ตามคำสั่งของผู้ใช้งาน (รวมทั้งสิ่งที่พันธมิตรเป็นผู้จัดหา) เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถกรอกข้อมูลได้ง่ายขึ้น
สำหรับใช้ข้อมูลในการจำแนกบุคคล เช่น ลักษณะการใช้งาน ชื่อนามสกุล และที่อยู่ เป็นต้น เพื่อปฏิเสธการใช้งานของผู้ใช้งานที่ละเมิดระเบียบในการใช้บริการ เช่น ชำระเงินล่าช้าและก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลภายนอก รวมทั้ง ผู้ใช้งานที่กำลังจะใช้บริการด้วยวัตถุประสงค์ที่ผิดและไม่เหมาะสม
สำหรับใช้ข้อมูลที่โรงแรมจำเป็นในการให้บริการผู้ใช้งาน เช่น รายละเอียดของการสอบถามและข้อมูลเกี่ยวกับการเรียกเก็บเงิน เพื่อตอบกลับการติดต่อสอบถามจากผู้ใช้งาน รวมทั้งใช้ข้อมูล เช่น ลักษณะการใช้บริการของผู้ใช้งานและสถานที่ติดต่อ
สำหรับวัตถุประสงค์ที่มาพร้อมกับวัตถุประสงค์ในการใช้งานตามที่ระบุข้างต้น
ข้อ 4 การให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บุคคลภายนอก
  1. โรงแรมจะไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บุคคลภายนอกโดยไม่ได้รับความยินยอมล่วงหน้าจากผู้ใช้งาน ยกเว้นกรณีดังต่อไปนี้และยกเว้นกรณีที่เห็นสมควรตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและกฎหมายอื่นๆ
    กรณีที่เป็นไปตามกฎหมาย
    กรณีที่จำเป็นต่อการรักษาชีวิตมนุษย์ ร่างกาย และทรัพย์สิน และเป็นการยากที่จะขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล
    กรณีที่มีความจำเป็นเป็นพิเศษต่อการปรับปรุงด้านสาธารณสุขหรือการส่งเสริมการให้ความรู้แก่เด็ก และเป็นการยากที่จะขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล
    กรณีที่หน่วยงานของประเทศหรือองค์กรเอกชนในท้องถิ่นหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายดังกล่าวจำเป็นต้องให้ความร่วมมือในการดำเนินงานตามที่กฎหมายกำหนด และเกรงว่าจะขัดขวางการปฏิบัติงานดังกล่าวจากการขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล
    กรณีที่มีการแจ้งหรือประกาศหัวข้อดังต่อไปนี้ไว้ล่วงหน้า
    ก. ต้องรวมการให้ข้อมูลแก่บุคคลภายนอกไว้ในวัตถุประสงค์การใช้งาน
    ข. หัวข้อของข้อมูลที่ให้แก่บุคคลภายนอก
    ค. วิธีการให้ข้อมูลแก่บุคคลภายนอก
    ง. การหยุดให้ข้อมูลแก่บุคคลภายนอกตามความประสงค์ของเจ้าของข้อมูล
  2. ในกรณีดังต่อไปนี้จะถือว่าไม่เกี่ยวข้องกับบุคคลภายนอก
    กรณีที่โรงแรมมอบหมายให้ทำหน้าที่ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดหรือบางส่วนภายในขอบเขตที่จำเป็นต่อการบรรลุวัตถุประสงค์การใช้งาน
    กรณีที่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลตามการรับมอบงานเนื่องจากเหตุผล เช่น การควบรวมธุรกิจ
    กรณีที่จะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลร่วมกันกับบุคคลที่ระบุ ได้แจ้งให้เจ้าของข้อมูลทราบล่วงหน้าเกี่ยวกับชื่อนามสกุลหรือชื่อของผู้รับผิดชอบเกี่ยวกับผลกระทบและหัวข้อของข้อมูลส่วนบุคคลที่จะใช้ร่วมกัน ขอบเขตที่จะใช้ร่วมกัน วัตถุประสงค์การใช้งานของผู้ใช้งาน และการควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว หรืออยู่ในสภาพที่เจ้าของข้อมูลทราบได้ง่าย
ข้อ 5 การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
  1. เมื่อโรงแรมได้รับการร้องขอให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลจากเจ้าของข้อมูลโรงแรมจะเปิดเผยแก่เจ้าของข้อมูลทันที ทั้งนี้ กรณีที่การเปิดเผยข้อมูลตรงกับข้อใดข้อหนึ่งดังต่อไปนี้ อาจจะไม่เปิดเผยทั้งหมดหรือบางส่วน ในกรณีที่ตัดสินใจจะไม่เปิดเผยจะแจ้งผลให้ทราบทันที รวมทั้งเมื่อจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียม 1,000 เยนต่อเรื่อง
    กรณีที่เกรงว่าจะส่งผลต่อชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน และผลประโยชน์อื่นๆ ของเจ้าของข้อมูลหรือบุคคลภายนอก
    กรณีที่เกรงว่าจะเป็นอุปสรรคอย่างชัดเจนต่อการดำเนินงานอย่างเหมาะสมของโรงแรม
    กรณีอื่นๆ ที่จะเป็นการละเมิดกฎหมาย
  2. สำหรับข้อมูลอื่นๆ นอกเหนือจากข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ข้อมูลประวัติและข้อมูลที่มีลักษณะเฉพาะ ตามหลักจะไม่เปิดเผย แม้จะมีระบุในข้อย่อยที่แล้วก็ตาม
ข้อ 6 การแก้ไขและลบข้อมูลส่วนบุคคล
  1. ในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลของตนเองที่ทางโรงแรมมีอยู่เป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ผู้ใช้งานสามารถขอให้โรงแรมแก้ไข หรือลบข้อมูลส่วนบุคคลโดยดำเนินการตามที่โรงแรมกำหนด
  2. ในกรณีที่รับคำร้องขอในข้อที่แล้วจากผู้ใช้งานและตัดสินว่าจำเป็นต้องดำเนินการตามคำขอ โรงแรมจะดำเนินการแก้ไขหรือลบข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวทันที และแจ้งเรื่องให้ผู้ใช้งานทราบ
ข้อ 7 การหยุดใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ฯลฯ
ในกรณีที่ผู้ใช้งานขอให้หยุดใช้หรือลบ (ต่อไปนี้เรียกว่า "การหยุดใช้") เนื่องจากเหตุผลที่ข้อมูลส่วนบุคคลถูกใช้เกินขอบเขตของวัตถุประสงค์การใช้งาน หรือเหตุผลที่ว่าเป็นสิ่งที่ได้มาผิดวิธี โรงแรมจะดำเนินการตรวจสอบตามความจำเป็นทันที และแจ้งผลให้ผู้ใช้งานทราบ ทั้งนี้ กรณีที่มีค่าใช้จ่ายจำนวนมากในการหยุดใช้ข้อมูลส่วนบุคคล กรณีอื่นๆ ที่ยากจะหยุดใช้ และกรณีที่สามารถดำเนินการทดแทนตามความจำเป็นเพื่อรักษาผลประโยชน์ของเจ้าของข้อมูล โรงแรมจะจัดหามาตรการทดแทน
ข้อ 8 การเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัว
  1. รายละเอียดของนโยบายฉบับนี้จะสามารถเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ผู้ใช้งานทราบ
  2. นโยบายความเป็นส่วนตัวหลังจากมีการเปลี่ยนแปลง จะมีผลบังคับใช้นับแต่เมื่อประกาศลงในเว็บไซต์ ยกเว้นกรณีที่โรงแรมกำหนดแยกต่างหาก
ข้อ 9 ผู้ประสานงานในการติดต่อสอบถาม
ในการติดต่อสอบถามเกี่ยวกับนโยบายนี้ กรุณาติดต่อมาที่ผู้ประสานงานดังต่อไปนี้
บริษัท ITECS จำกัด
E-mail : contact@kyomiyabi.com